ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง เกิดจากอะไร รักษาวิธีไหนได้บ้าง?

ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง เกิดจากอะไร รักษาวิธีไหนได้บ้าง?
สารบัญ

ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง เป็นภาวะที่เกิดขึ้นจากการหดตัวของกล้ามเนื้อในผนังหลอดเลือดหัวใจอย่างเฉียบพลัน แม้ไม่ได้มีไขมันอุดตันแต่กลับส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลงชั่วขณะ ทำให้เกิดอาการคล้ายภาวะหัวใจขาดเลือด และหากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ได้โดยไม่รู้ตัว ภาวะนี้สามารถพบได้ในผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจอย่างชัดเจน การวินิจฉัยที่แม่นยำและการวางแผนรักษาอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะหากได้รับการดูแลจากทีมแพทย์เฉพาะทาง อย่าง CR Heart Center ซึ่งมีทั้งเครื่องมือทันสมัยและแนวทางเวชปฏิบัติที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากล เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตีบเฉียบพลัน หรือ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

หลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง คืออะไร?

ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง (Coronary Artery Spasm) คือภาวะที่ผนังของหลอดเลือดหัวใจเกิดการหดตัวอย่างเฉียบพลัน ส่งผลให้หลอดเลือดแคบลงและการไหลเวียนเลือดไปยังกล้ามเนื้อหัวใจลดลงชั่วคราว โดยที่ไม่มีไขมันอุดตันในหลอดเลือด อาการมักเกิดขณะพักหรือตอนกลางคืน ซึ่งต่างจากภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบที่เกิดจากไขมันสะสมในผนังหลอดเลือด ภาวะนี้สามารถกระตุ้นให้เกิด อาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือ หัวใจขาดเลือดอาการ แม้ในผู้ที่ไม่มีประวัติโรคหัวใจมาก่อน การเข้าใจภาวะนี้อย่างถูกต้องจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการดูแลสุขภาพหัวใจ

ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง มีอาการอย่างไร?

ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็งสามารถแสดงอาการได้หลากหลาย โดยเฉพาะอาการที่คล้ายกับ ภาวะหัวใจขาดเลือด หรือ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความเข้าใจต่ออาการตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้ทันก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อน

อาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • เจ็บแน่นบริเวณกลางหน้าอก รู้สึกเหมือนถูกกดทับหรือบีบรัด
  • อาการเกิดในช่วงพัก เช่น ตอนนอนหรือตอนเช้ามืด ไม่เกี่ยวกับการออกแรง
  • อาการมักเป็นๆ หายๆ โดยหายเองภายในไม่กี่นาที
  • ความเจ็บแน่นอาจร้าวไปยังแขนซ้าย คอ ขากรรไกร หรือไหล่
  • อาจมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ หรือเป็นลมหมดสติ
  • เหงื่อออกมาก คลื่นไส้ หรือหายใจไม่อิ่มโดยไม่ทราบสาเหตุ

ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง มีสาเหตุเกิดจากอะไร?

แม้ภาวะนี้จะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีคราบไขมันอุดตันในหลอดเลือด แต่กลับมีปัจจัยกระตุ้นที่สัมพันธ์กับการหดตัวของหลอดเลือดโดยตรง ซึ่งสามารถควบคุมหรือหลีกเลี่ยงได้หากมีความเข้าใจที่ถูกต้อง

สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่:

  • การสูบบุหรี่: สารนิโคตินทำให้หลอดเลือดหดตัว และเป็นปัจจัยร่วมของภาวะหัวใจขาดเลือด
  • ความเครียดและอารมณ์แปรปรวน: ส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นการบีบตัวของหลอดเลือด
  • อากาศเย็นจัด: กระตุ้นการหดตัวของหลอดเลือดโดยระบบประสาทอัตโนมัติ
  • การดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนมากเกินไป: ส่งผลต่อสมดุลการทำงานของระบบประสาทและหัวใจ
  • การใช้สารเสพติด เช่น โคเคน: กระตุ้นการหดตัวของหลอดเลือดหัวใจอย่างรุนแรง
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม: ผู้ที่มีหลอดเลือดไวต่อการกระตุ้นโดยกำเนิด

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง

การรู้จักปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสเกิดภาวะนี้มีความสำคัญต่อการวางแผนป้องกันโรค โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือมีแนวโน้มเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว

ปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวัง ได้แก่:

  • มีประวัติโรคหัวใจหรือหลอดเลือดในครอบครัว
  • เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูง
  • ขาดการออกกำลังกาย หรือมีภาวะอ้วนลงพุง
  • นอนหลับไม่เพียงพอหรือมีคุณภาพการนอนต่ำ
  • มีความเครียดสะสมเรื้อรัง
  • เคยใช้ยาหรือสารกระตุ้นที่ส่งผลต่อการหดตัวของหลอดเลือด

ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?

การควบคุมพฤติกรรมและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตมีผลอย่างยิ่งต่อการป้องกันไม่ให้อาการกำเริบหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์อย่างใกล้ชิด

แนวทางที่แนะนำ ได้แก่:

  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มคาเฟอีน
  • ลดความเครียด ด้วยการนอนให้พอ พักผ่อน และฝึกสมาธิหรือโยคะ
  • ออกกำลังกายแบบแอโรบิกเบาๆ เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)
  • รับประทานอาหารสุขภาพ ลดไขมันอิ่มตัว โซเดียม และน้ำตาล
  • ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และไม่หยุดยาเอง
  • เข้ารับการตรวจสุขภาพหัวใจตามกำหนดที่แพทย์แนะนำ

การวินิจฉัยภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง

การวินิจฉัย ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง ต้องอาศัยการซักประวัติอาการร่วมกับการตรวจทางคลินิกที่เฉพาะเจาะจง เพื่อแยกความแตกต่างจาก ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ที่เกิดจากหลอดเลือดอุดตัน การวินิจฉัยที่แม่นยำสามารถช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ตรงจุด ป้องกันการพัฒนาไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวหรือ กล้ามเนื้อหัวใจตีบเฉียบพลัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้คลื่นไฟฟ้าหัวใจ

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG หรือ EKG) เป็นวิธีพื้นฐานที่ช่วยบ่งชี้ความผิดปกติขณะเกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอก เช่น การเปลี่ยนแปลงของ ST segment ซึ่งอาจแสดงถึงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แม้ไม่มีการอุดตันของหลอดเลือดก็ตาม

การตรวจสมรรถภาพหัวใจ

การทำ stress test ด้วยการออกกำลังกายหรือให้ยากระตุ้นหัวใจ จะช่วยทดสอบการตอบสนองของหัวใจต่อการใช้งาน หากเกิดอาการหรือคลื่นไฟฟ้าผิดปกติในระหว่างการทดสอบ อาจบ่งชี้ถึงหลอดเลือดที่ไวต่อการหดเกร็ง

การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ

เป็นการตรวจโดยฉีดสารทึบรังสีเข้าเส้นเลือดหัวใจร่วมกับการถ่ายภาพรังสีแบบ live fluoroscopy ช่วยให้เห็นการบีบตัวผิดปกติของหลอดเลือด แม้ไม่พบคราบไขมันอุดตัน วิธีนี้ใช้เพื่อแยกแยะจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบทั่วไป

การใช้ Holter Monitor

เป็นเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจชนิดพกพา ผู้ป่วยต้องสวมอุปกรณ์ติดตัวเป็นเวลา 24–48 ชั่วโมง เพื่อตรวจจับความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันซึ่งไม่สามารถพบได้ในการตรวจแบบทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงเวลาพักผ่อนหรือขณะนอนหลับ

ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง รักษาวิธีไหนบ้าง?

การรักษา ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง มุ่งเน้นการควบคุมอาการ ลดความถี่ของการหดเกร็ง และป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น หัวใจขาดเลือดเฉียบพลันอาการ หรือ ภาวะหัวใจขาดเลือด โดยใช้ทั้งแนวทางทางเภสัชกรรมและการปรับพฤติกรรมชีวิตร่วมกัน

แนวทางการรักษาหลัก ได้แก่:

  • การใช้ยากลุ่ม calcium channel blockers เพื่อยับยั้งการบีบตัวของหลอดเลือด
  • การใช้ยา nitrates ช่วยขยายหลอดเลือด ลดแรงต้านการไหลเวียนของเลือด
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น บุหรี่ คาเฟอีน แอลกอฮอล์ และสารเสพติด
  • ควบคุมโรคเรื้อรังร่วม เช่น เบาหวาน ความดัน และไขมันในเลือดสูง
  • ลดความเครียดในชีวิตประจำวันผ่านกิจกรรมผ่อนคลาย
  • เข้ารับการติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง

หากต้องการรักษาภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง ทำไมต้องใช้บริการ CR Heart Center?

CR Heart Center คือศูนย์หัวใจที่ให้บริการครอบคลุมทุกด้านของโรคหัวใจ รวมถึง ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการวินิจฉัยที่แม่นยำและการติดตามอย่างใกล้ชิด ศูนย์แห่งนี้มีทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ตรงในการรักษาโรคหัวใจหลากหลายประเภท พร้อมด้วยเทคโนโลยีการตรวจหัวใจที่ทันสมัยระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Holter monitor หรือการฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังมีระบบดูแลแบบสหสาขาวิชาชีพซึ่งประเมินอาการอย่างองค์รวม ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมและยารักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล เพื่อเพิ่มโอกาสควบคุมอาการได้อย่างยั่งยืน

สรุป

ภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง เป็นภาวะที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แม้จะไม่เกิดจากคราบไขมันอุดตัน แต่สามารถนำไปสู่ อาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือหัวใจวายเฉียบพลันได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอย่างเหมาะสม การวินิจฉัยที่รวดเร็วและการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากได้รับบริการจาก CR Heart Center ที่มีมาตรฐานระดับสูงทั้งด้านเทคโนโลยีและการบริบาล สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตนเองอาจมีอาการเข้าข่าย หรือมีอาการเจ็บหน้าอกที่ไม่แน่ชัด ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้พัฒนาไปสู่ ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือ สัญญาณเตือนโรคหัวใจขาดเลือด ที่รุนแรงขึ้นในอนาคต

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็ง

อาการของภาวะหลอดเลือดหัวใจหดเกร็งมีอะไรบ้าง?

อาการทั่วไปของภาวะนี้ ได้แก่:

  • เจ็บแน่นบริเวณกลางหน้าอก โดยเฉพาะขณะพักผ่อนหรือยามค่ำคืน
  • อาการเกิดเป็นช่วงสั้นๆ และหายเองโดยไม่ต้องใช้แรง
  • อาจรู้สึกแน่นหน้าอก ร้าวไปแขนซ้ายหรือขากรรไกร
  • เหงื่อออกมาก ใจสั่น หรือหมดสติในบางราย

หัวใจบีบตัวน้อยเกิดจากอะไร?

ภาวะหัวใจบีบตัวน้อย อาจเกิดจาก:

  • การอุดตันของหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
  • ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงจากขาดเลือดเรื้อรัง
  • หัวใจวาย หรือผลจาก ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
  • การติดเชื้อในกล้ามเนื้อหัวใจ หรือผลข้างเคียงจากยา

เส้นเลือดหดตัวเกิดจากอะไร?

สาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ได้แก่:

  • การสูบบุหรี่หรือได้รับนิโคติน
  • ความเครียดหรืออารมณ์ที่กระตุ้นระบบประสาท
  • สารกระตุ้น เช่น โคเคน หรือยาบางชนิด
  • อุณหภูมิที่เย็นจัดหรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม

อาการของภาวะหัวใจขาดเลือดมีอะไรบ้าง?

สัญญาณเตือนของภาวะหัวใจขาดเลือด ได้แก่:

  • เจ็บแน่นหน้าอกบริเวณกลางอก อาจร้าวไปแขน คอ หรือกราม
  • เหนื่อยง่าย ใจสั่น หรือหายใจไม่อิ่มแม้ขณะพัก
  • เหงื่อออกมาก หน้ามืด หรือรู้สึกจะเป็นลม
  • อาการไม่ดีขึ้นแม้ใช้ยาอมใต้ลิ้น ควรรีบพบแพทย์ทันที

บทความล่าสุด

หัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ

ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ คืออะไร รักษาวิธีไหนได้บ้าง?

ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ เป็นความผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจที่ทำให้เกิดจังหวะหัวใจเต้นเร็วเกิน 100 ครั้ง/นาที รักษาได้ด้วยยาต้านอารีทเมียและการใช้ไฟฟ้าช็อต

ภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพลิ้ว

โรคหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว คืออะไร สาเหตุเกิดจากอะไร รักษาวิธีไหนได้บ้าง?

โรคหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว เป็นภาวะที่หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดจากการนำไฟฟ้าในหัวใจผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการใจสั่น ต้องรักษาด้วยยาควบคุมจังหวะหัวใจและป้องกันลิ่มเลือด

ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน อาการเป็นอย่างไร

กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เกิดจากอะไร รักษาวิธีไหนได้บ้าง?

กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เป็นภาวะฉุกเฉินที่เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจ ทำให้เกิดอาการปวดหน้าอกรุนแรง ต้องรักษาด้วยการสวนหัวใจเร่งด่วน